Sermons on Vimeo
 


Visit us on



imeo ไม่มีคำเทศนาก่อนปี 2021 โปรดไปที่ YouTube เพื่อฟังข้อความเก่า ๆ

  Sermons on YouTube
 


Visit us on

ค่ายคริสตจักร 13-15 เม.ย. 2011 เรื่อง โดย อ.มาร์กาเร็ต เบอร์ตัน
ค่ายในครั้งนี้จัดขึ้นที่ โรงแรมมันดาวีรีสอร์ทแอนด์สปา จังหวัดกระบี่ การเดินทางของเราเริ่มต้นที่จุดนัดพบบ้านซัสเศ็กส์ในเช้าที่สดใสของวันที่ 13 เม.ย. ขบวนรถของเราเดินทางไปอย่างพร้อมเพรียงกันเพื่อมุ่งตรงไปที่อ่าวนาง จ.กระบี่ หัวข้อค่ายครั้งนี้คือ "ครอบครัว" ขนาดค่ายยังไม่ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเต็มตัว เราก็ได้เห็นถึงความตื่นเต้นของทุกๆ คนที่เข้าร่วม เรามีเวลาสามัคคีธรรมด้วยกัน สันทนาการ ทานอาหารอร่อยๆ และเวลาพักผ่อนด้วยกัน ที่สำคัญบรรยากาศแห่งการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า ทำให้จิตวิญญาณของเรารู้สึกสดชื่นกันอย่างถ้วนหน้า ในระหว่างการร่วมประชุม พระเจ้าตรัสกับพวกเรา นำการท้าทาย การปลอบประโลม และคำหนุนใจมายังเราหลังจากที่เราได้ถวายตัวอย่างสดใหม่ให้กับพระองค์และแก่กันและกันอีกครั้ง ในความคิด ร่างกายและในจิตวิญญาณ ท่านสามารถอ่านเกี่ยวกับคำพยานจากผู้ร่วมค่ายในครั้งนี้ได้

ดาว: การไปรีทรีทครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า ฉันไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว แต่เราอยู่กันเป็นครอบครัว หากมีปัญหาก็สามารถบอกกลุ่มอธิษฐานให้อธิษฐานเผื่อได้ หรือบอกให้พี่น้องอธิษฐานเผื่อได้ ทำให้เรามีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้า ถึงแม้ว่ากลับมาจากรีทรีทจะมีปัญหาเกิดขึ้น แต่ก็มีพี่น้องที่คอยอธิษฐานเผื่อ และคอยช่วยเหลือฉัน


ลิเดีย: ขอบคุณพระเจ้าสำหรับรีทรีทครั้งนี้ สิ่งที่พระเจ้าตรัสคือ
  1. 1. ภาระหนักที่เคยแบกไว้นั้น ไม่ต้องแบกไว้อีก พระเจ้ามาเป็นกำลังและนำการปลดปล่อยสิ่งเหล่านั้นออกไปจากเรา
  2. 2. สิ่งต่างๆ ที่เป็นเสมือนม่านบังตาฝ่ายวิญญาณ พระเจ้าก็ทรงฉีกออก และได้อเห็นสิ่งต่างๆ อย่างที่พระเจ้าต้องการให้เห็น
  3. 3. สิ่งของในโลกนี้ไม่ได้เป็นสิ่งยั่งยืน พระเจ้าต้องการให้เรามองไปยังสิ่งที่เป็นของพระเจ้า เพราะสิ่งนั้นต่างหากที่ยั่งยืน


แม่ตุ๊ก: การไปรีทรีทครั้งนี้ได้รับการหนุนใจมาก ได้เห็นบรรยากาศของความเป็นครอบครัวที่มีการห่วงใยกัน ยกโทษให้แก่กันและอธิษฐานเผื่อกัน ขอบคุณพระเจ้า

โดย เอ็ดการ์ เปนาโซ: มธ. 26:40 "เป็นอย่างไรนะ ท่านทั้งหลายจะคอยเฝ้าอยู่กับเราสักครู่เดียวไม่ได้หรือ"
เมื่อหน้าร้อนปี 2010 ผมได้รอคอยโอกาสที่จะได้ไปค่ายเพื่อตอบสนองความหิวกระหายฝ่ายจิตวิญญาณของผมที่อยากจะเข้าใกล้พระเจ้า ผมรู้สึกอย่างแรงกล้าที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นไม่มีค่ายไหนที่ตรงกับช่วงเวลาที่ผมสามารถไปได้เลย มีบางครั้งที่ผมคิดว่าอาจจะได้ไป แต่ดูเหมือนพระเจ้าก็ไม่ได้อนุญาตให้มันเกิดขึ้น และบางครั้งก็เป็นเพราะเหตุผลทางการเงิน จึงทำให้ผมไม่สามารถไปร่วมได้ ดังนั้นผมจึงรอคอยค่ายครั้งนี้มานานแสนนาน!
ในวันที่ 13 เมษายน 2011 คุณเกล็น เฟอร์เรอร์ หัวหน้าเซลล์ของผมได้โพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับค่ายครั้งนี้ลงในเฟสบุค ซึ่งจะมีขึ้นตามวันและเวลาดังกล่าว ตอนที่อ่าน ผมคิดอยู่ในใจว่า "ใช่ ในที่สุด พระเจ้าก็อยากให้ลูกใช้เวลากับพระองค์ผ่านทางค่ายในครั้งนี้" ผมตัดสินใจในทันทีที่จะไปและเตรียมทุกอย่างทั้งทางด้านการเงินด้วย
และตลอดเวลาที่อยู่ที่ค่าย ผมก็ได้รับพระพรเป็นอย่างมาก จิตวิญญาณได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง ความเชื่อก็สดใหม่อีกครั้ง ผมได้รับสันติสุข และพระเจ้าก็ประทานพระสัญญาของพระองค์แก่ผมอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อตอนที่อาจารย์นกแบ่งปันจาก เยเรมีห์ 29:11-13 พระเจ้าได้ประทานกำลังและแรงผลักดันให้ผมก้าวต่อไปในชีวิตด้วยความไว้วางใจและความรักในพระองค์ และเพื่อที่ผมจะทำการช่วย อวยพร และอธิษฐานเผื่อคนอื่นๆ ต่อไป ดังนั้นผมจึงขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพรและสำหรับทุกคนที่ PCC ที่ทำให้เกิดค่ายในครั้งนี้ขึ้นมา

คำพยานจาก คุณแมรีย์ แคทูรัส: ฉันเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ชอบผจญภัย ชอบการท้าทาย ชอบการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และชอบที่จะแบ่งปันความรู้ให้กับผู้อื่น
ในเรื่องฝ่ายวิญญาณ ฉันเป็นคนที่ตามหาความจริงเกี่ยวกับพระเจ้ามานาน ตั้งแต่ฉันเป็นเด็ก ฉันเคยไปโบสถ์มาหลายแห่ง ได้พบและได้เห็นรูปแบบการนมัสการหลายประเภท พอมาเป็นวัยรุ่นก็ได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้าเรื่อยมา สิ่งเหล่านั้นได้มีส่วนหล่อหลอมความคิดและมุมมองฉันในวันนี้ แม้ว่าจะไปโบสถ์และอธิษฐานแทบทุกอาทิตย์ แต่ฉันก็แทบจะไม่เคยได้เปิดพระคัมภีร์เลย
จนกระทั่งฉันได้พบกับคุณเกล็นและคุณจูลี่ เฟอร์เร่อร์ ฉันได้รับพระพรจากเขาเป็นอย่างมากในสติปัญญาเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้าที่เขาทั้งสองมี เมื่อเขาได้เชิญฉันไปที่คริสตจักรของเขา คือที่ PCC ฉันตื่นเต้นมากเมื่อได้ไปและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับพระเจ้า ฉันยังจำได้วันแรกที่ฉันเข้ามาที่คริสตจักร พระเจ้าทรงเคลื่อนไหวในจิตใจของฉันเป็นอย่างมากจากพระคำของพระองค์ สิ่งเหล่านั้นยังคงอยู่ในใจของฉันเรื่อยมา ฉันยังคงมาที่คริสตจักรและไปร่วมกลุ่มเซลล์ของคุณเกล็นและคุณจูลี่เป็นประจำ แต่อย่างไรก็ตามฉันได้ค้นพบว่า ตัวเองยังคงเต็มด้วยความสงสัย คำถาม ความกลัว และความไม่แน่นอนสับสน สิ่งที่ฉันเคยคิดว่าเป็นคำตอบ กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเกิดความสับสน
จนกระทั่งคุณเกล็น ได้เชิญฉันให้ไปร่วมค่ายของคริสตจักร ฉันตอบรับทันทีเพราะฉันคิดว่า นี่จะเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่จะทำให้ฉันปลดปล่อยและได้อยู่กับพระเจ้าเพียงลำพัง และมันก็เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต และเป็นการจัดเตรียมจากพระเจ้าจริงๆ สิ่งที่เป็นพระพรมากที่สุดจากการเข้าค่ายครั้งนี้คือ ในคืนสุดท้ายที่ฉันได้ออกไปข้างหน้าเพื่อรับการอธิษฐานเผื่อ ตอนแรกฉันคิดในใจว่า ตรงนี้เป็นอะไรที่ไม่เหมือนกับที่ฉันเคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่จากที่พี่น้องสนับสนุนและให้กำลังใจฉัน ฉันจึงออกไป และเมื่ออ.ไบรอันวางมืออธิษฐานเผื่อฉัน ฉันสัมผัสได้ทันทีถึงการอวยพรจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ใจของฉันตื่นเต้นด้วยความชื่นชมยินดี ฉันรู้สึกได้ถึงฤทธิ์เดชของพระเจ้า หลังจากนั้นฉันก็ได้พบกับคุณเกล็นและกลุ่มอธิษฐาน ฉันได้พูดคุยกับเขาเกี่ยวกับความไม่เข้าใจบางอย่าง สิ่งที่พวกเขาตอบกลับมาทำให้ฉันได้รับพระพรและสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพระเจ้ากำลังตรัสกับฉันอยู่ ในคืนนั้นเอง ฉันสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง การปลดปล่อย การบูรณะที่มาจากพระเจ้า
ในที่สุด ฉันก็ได้ค้นพบความจริง! พระเจ้าต้องการให้ฉันเป็นบุตรของพระองค์ อยู่ในครอบครัวของพระองค์ ถึงแม้ว่าการค้นหาของฉันอาจจะจบลง แต่การเดินทางของฉันกับพระเจ้ามันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น พระเจ้าได้นำฉันให้มาอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ในเวลาอันแสนจะเหมาะเจาะของพระองค์ ตอนนี้ใจของฉันเปิดออกพร้อมที่จะรับทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้กับฉัน

มารีวิค แม็กซ์เวลล์: ฉันชื่อมาร์วิค เป็นสมาชิกของคริสตจักรคริสเตียนสัมพันธ์ภูเก็ต ฉันอยากใช้โอกาสนี้ในการบอกเล่าประสบกาณ์ว่าพระเจ้าได้อวยพรฉันอย่างไรบ้างในค่ายคริสตจักรเมื่อวันที่ 13-15 เมษายนที่ผ่านมา ฉันได้อธิษฐานเผื่อพี่น้องในคริสตจักรหลายคนที่พระเจ้าได้ให้ภาระใจเพื่ออธิษฐานเผื่อเขา และในค่ายครั้งนี้พระเจ้าก็ทรงตอบฉันเมื่อได้เห็นคนเหล่านั้นได้รับการปลดปล่อยจากพระเจ้า สำหรับฉันการปลดปล่อยที่เขาได้รับก็เป็นการปลดปล่อยสำหรับฉันด้วย พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อต่อพระสัญญาของพระองค์ ในฐานะที่ฉันเป็นลูกของพระเจ้า ฉันขอบคุณพระองค์สำหรับครอบครัวของฉันที่ภูเก็ตนี้
ก่อนจะไปค่าย พระเจ้าได้ตรัสกับฉันจาก มาระโก 11:24 และ เอเฟซัส 3:15-21
"ครอบครัวทั้งหมดในสวรรค์และแผ่นดินโลกก็ได้ชื่อมาจากพระองค์16 ขอให้พระองค์ทรงโปรดประทานกำลังเรี่ยวแรงมากฝ่ายจิตใจแก่ท่าน โดยเดชพระวิญญาณของพระองค์ตามความไพบูลย์แห่งสง่าราศีของพระองค์ 17 เพื่อพระคริสต์จะทรงสถิตในใจของท่านโดยความเชื่อ เพื่อว่าเมื่อท่านได้วางรากลงมั่นคงในความรักแล้ว 18 ท่านก็จะได้มีความสามารถหยั่งรู้พร้อมกับวิสุทธิชนทั้งหมด ถึงความกว้าง ความยาว ความลึก ความสูง 19 และให้เข้าใจถึงความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อท่านจะได้รับความไพบูลย์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม
20 บัดนี้ ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ผู้ทรงฤทธิ์สามารถกระทำสารพัดมากยิ่งกว่าที่เราจะทูลขอหรือคิดได้ ตามฤทธิ์เดชที่ประกอบกิจอยู่ภายในตัวเรา"

แอนดรูว์ แม็กซ์เวลล์: ผมชื่อแอนดรูว์ ผมเป็นลูกพระเจ้า เป็นสาวกแห่งพระคำของพระองค์ และผมหวังว่าผมก็คงเป็นผู้รับใช้ที่ดีของพระองค์คนหนึ่งด้วย ผมไปค่ายคริสตจักรครั้งนี้กับมาร์วิค ภรรยาของผม เราคาดหวังให้พระเจ้าทำงานในชีวิตของเราทั้งสองคน ท่านคิดหรือว่าพระเจ้าจะไม่ตอบ? ท่านคิดหรือว่าพระเจ้าเป็นพระเจ้าที่หลงลืมบุตรทั้งหลายของพระองค์และนำบุตรเหล่านั้นไปในทางผิดๆ? หากท่านคิดอย่างนั้นก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย
หากท่านคาดหวังให้พระเจ้าทำงานในชีวิตแล้วล่ะก็ พระเจ้าก็จะทำ แต่ถ้าท่านไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แล้วความเชื่อของท่านอยู่ที่ไหน? ทุกคนที่ไปค่ายครั้งนี้ต่างก็มีความเชื่อและคาดหวังว่าพระเจ้าจะทำงานในชีวิตของเขา และสิ่งที่พิเศษที่เกิดขึ้นกับผมเป็นส่วนตัวก็คือการได้เห็นพระเจ้ากระทำกิจในชีวิตของผู้คน เหมือนที่ผมพูดไปแล้วว่า ผมชื่อแอนดรูว์ ผมเป็นลูกของพระเจ้า... ค่ายในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการที่เราได้สรรเสริญพระเจ้า มีสามัคคีธรรม ได้เรียนรู้ ได้รับใช้ปรนนิบัติลูกๆ ทั้งหลายของพระเจ้า ขอบคุณพระเยซู

เฟส พริชาร์ด: ค่ายครั้งนี้เป็นพระพรให้ดิฉันเป็นอย่างมาก พระเจ้าได้สำแดงให้ดิฉันเห็นสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับตนเองและคนอื่นๆ แต่สิ่งที่เด่นๆ และสำคัญก็คือ ฉันได้เห็นสมาชิกคริสตจักรสำแดงชีวิตแห่งความรักราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนสามารถบอกเล่าความในใจต่อกันได้อย่างจริงใจและเปิดเผย และสิ่งที่พวกเขาได้รับกลับก็คือ ความรัก คำหนุนใจและคำอธิษฐานเผื่อกัน ช่างเป็นภาพที่สวยงามเหลือเกินเมื่อได้เห็นลูกๆ ของพระเจ้าปฏิบัติต่อกันด้วยความรักและห่วงใย

ลิน เอสลาร์: นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้มีโอกาสเข้าค่ายของคริสตจักร PCC ตลอด 35 ปีที่มีชีวิตอยู่มา ฮ่าฮ่า!! ดิฉันดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรนี้
ตอนที่อยู่ที่ค่าย ดิฉันรู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่ได้เห็นชีวิตของหลายๆ คนได้รับการปลดปล่อยจากความเจ็บปวดที่พวกเขาได้เก็บไว้ในใจมานาน
พระคำพระเจ้าจาก โรม 3:23-24 ได้หนุนใจดิฉันอย่างมากที่บอกว่า
"เหตุว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากสง่าราศีของพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เราเป็นผู้ชอบธรรม โดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นบาปแล้ว"
คำพยานส่วนใหญ่ที่เราได้ฟัง ล้วนแล้วแต่เกี่ยวเนื่องกับการได้รับการเป็นทาสต่อความรู้สึกบางอย่าง เช่น ความกลัว การไม่ให้อภัย ความสงสัย ความหยิ่ง และความรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ค่ายครั้งนี้ได้ทำให้ทุกคนได้รับการปลดปล่อยจากความรู้สึกเหล่านั้น หลายคนมักจะคิดว่า ตัวเองเป็นคนบาป และกล่าวโทษตัวเองอยุ่เสมอ แต่ขอบคุณพระเจ้าผู้ทรงจัดเตรียมหนทาง เมื่อพระองค์จอมจ่ายค่าความบาปให้เราโดยผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระองค์ก็ได้ประกาศให้เราเป็นผูชอบธรรมแล้ว
แม้ว่ามารซาตานจะต้องการทำงายชีวิตของเรา แต่มันก็ต้องพ่ายแพ้เพราะแผนงานของพระเจ้าคือการทำให้เราจำเริญขึ้น
สรุปก็คือ ค่ายครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งเสรีภาพ